ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระพยอมติงซินแส เจพลังจิต ใช้ฝ่าเท้ารักษาคน ไม่ใช่ศาสตร์แต่เป็นความงมงาย พร้อมยันทางวัดไม่มียาวิเศษตามข่าวลือ

พระพยอมติงซินแส เจพลังจิต ใช้ฝ่าเท้ารักษาคน ไม่ใช่ศาสตร์แต่เป็นความงมงาย พร้อมยันทางวัดไม่มียาวิเศษตามข่าวลือ


จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิป “ซินแส เจพลังจิต” ใช้วิชาพลังจิตหนึ่งเดียวในโลก ดูดวงฟรี วางฮวงจุ้ย ตั้งศาล แก้คุณไสย ของไม่ดี มนต์ดำ โดนทำของ ลมเพลมพัด ผูกหุ่น และรักษาโรคด้วยการใช้ฝ่าเท้า มีผู้เข้ามาใช้บริการ รับการรักษาเป็นจำนวนมาก โดยต้องโทรนัดคิวก่อนล่วงหน้าหากต้องการใช้บริการ

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อขอสัมภาษณ์กับพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงมุมมองในประเด็นดังกล่าว เกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคของ “ซินแส เจพลังจิต” ว่าเหมาะสมหรือไม่ พร้อมทั้งประเด็นที่มี AI ทำคลิปว่าพระพยอมมียาวิเศษรักษาอาการเคล็ดขัดยอก

พระพยอม กล่าวว่า พระพยอม กล่าวว่า ต่อไปแป้ง ยา ครีมทาหน้าสวยคงขายไม่ออกเพราะมาใช้เท้าเหยียบหน้า ความเชื่อถือของคนถ้าจะเชื่อก็ควรพิสูจน์และเรียนรู้ให้ชัดเจน ไม่ใช่บอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ และก็เชื่อไปเลย ทุกอย่างควรเรียนรู้และศึกษาให้ชัดเจนว่ามันเป็นไปได้จริงหรือไม่ ควรถือหลักไว้ว่า 1.อย่าเพิ่งเชื่อ 2. อย่าพึ่งรีบปฏิเสธ ติดตามศึกษาเรียนรู้ให้ชัดเจน และจบด้วยความรู้ไม่ใช่ความงมงาย อันนี้ไม่ใช่ศาสตร์ไหนแต่เป็นความงมงาย ส่วนกรณีที่รักษาแล้วจะต้องไปทำบุญตามคำแนะนำคาดว่าคงมีการตกลงกับทางวัด ควรเอะใจไว้บ้าง

ตอนนี้มีข่าวเฟคนิวส์ในลักษณะคลิป AI บอกพระพยอมมียาแก้เคล็ดขัดยอก ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตัวอาตมาเองยังต้องหาซื้อยามาทาขาแทบทุกวัน เป็นข่าวลวงและมิจฉาชีพทั้งนั้น น่าเสียดายเหลือเกินที่มีคนแห่กันมาที่วัดและเล่าว่าเสียเงินไปคนละ 1-2,000 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริงพระพยอมไม่มียาทาวิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น ฝากถึงคนที่ใช้โซเชียล หากเห็นอะไรเป็นข่าวขึ้นมาอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ควรศึกษาและไตร่ตรองไปสักพักนึงว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกลวง

ที่มา.ภาพ/ข่าว ทีมข่าวนนทบุรี

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...