ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตร.บุกจับแก๊งโจรจีนปีนกำแพงงัดบ้านหรูนักธุกิจชาวแคนาดา กวาดทรัพย์ 1.6 ล้าน ของกลางเพียบ พบมีประวัติลักทรัพย์ที่จีน

นนทบุรี วงจรปิด ตร.บุกจับแก๊งโจรจีนปีนกำแพงงัดบ้านหรูนักธุกิจชาวแคนาดา กวาดทรัพย์ 1.6 ล้าน ของกลางเพียบ พบมีประวัติลักทรัพย์ที่จีน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ส.ค.68 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สส.ตม.ภ.1 พร้อมกำลังตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.1, ฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด และ บก.ตม.1 สตม. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 4 คน ได้แก่ 1.MR. LIU LAIXIANG อายุ 35 ปี สัญชาติจีน (ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 993/2568 ลงวันที่ 3 ส.ค. 2568) 2. MR. YA ZUJIANG อายุ 50 ปี สัญชาติจีน  3.MR. LI FEI อายุ 34 ปี สัญชาติจีน  4.MR. WEI QINGYOU อายุ 37 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย 1.รถจักรยานยนต์ 3 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง 3.อุปกรณ์งัดแงะหลายรายการ เช่น ไขควง สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียร ผ้าคลุมหน้า หมวก ถุงมือ ฯลฯ 4.ธนบัตรไทยและต่างประเทศ 5.นาฬิกาหรู TAG Heuer 2 เรือน (ผู้เสียหายยืนยันเป็นของตน) 6.เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในวันก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งมิได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าในเคหสถาน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ MR. YA ZUJIANG ในความผิด “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ

คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.41 น. นาง JULIE LYNNE BEEYON อายุ 49 ปี สัญชาติแคนาดา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ว่าถูกคนร้ายงัดบ้านภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัดช่วง 20–30 ก.ค. 2568 สูญทรัพย์สินรวมกว่า 1,600,000 บาท มีการงัดตู้เซฟ ฉกเครื่องประดับ แหวน นาฬิกา ต่างหู และเอกสารสำคัญ

จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ กระทั่งวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.614/2568 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2568 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118/133 หมู่บ้านภัสสร 21 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอยู่ภายใน พร้อมของกลางหลายรายการ ผู้เสียหายยืนยันทรัพย์สินบางส่วนเป็นของตนจริง

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาวจีนทั้งหมดและเลือกก่อเหตุในหมู่บ้านหรู โดยดูจากสภาพบ้านว่ามีคนอยู่หรือไม่ เช่น แอร์และไฟปิด เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานจากเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งยึดนาฬิกาหรู 2 เรือน และเงินสดหลายสกุลคืนผู้เสียหายบางส่วน แต่ยังไม่ครบ มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1.6 ล้านบาท และมีพฤติการณ์ก่อเหตุหลายพื้นที่ ซึ่งจะขยายผลสอบสวนต่อ ส่วนสาเหตุทางตำรวจได้สอบถามผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ทั้งนี้จึงอยากฝากชาวบ้านที่มีความจำเป็นจะไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดให้แจ้ง รปภ.และนิติหมู่บ้านไว้เพื่อป้องกันเหตุ ส่วนหมู่บ้านที่ถูกลักทรัพย์ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหมู่บ้านได้วางมาตรการป้องกันไม่ให้คนร้ายปีนเข้ามาง่าย และอยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยแชร์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ในวันนี้เรียบร้อย  รวมถึงตรวจสอบแล้วจะส่งมอบของกลางส่งคืนเจ้าของที่เหลือทั้งหมด 

พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 กล่าวเสริมว่า ผู้ต้องหาเตรียมอุปกรณ์งัดแงะและอุปการณ์สำหรับปีนป่ายเป็นสำหรับบ้านที่มีกำแพงสูง มีการวางแผนอย่างดี และไม่เข้าทางปกติ หลังจากได้รับแจ้ง ได้ความร่วมมือจากเพื่อนบ้านทำให้ติดตามจับกุมได้เร็วขึ้น พบว่ามี 1 รายลักลอบเข้าเมือง และอีก 1 รายแม้เข้ามาถูกต้องแต่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ในจีน

พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สส.ตม.ภ.1 ระบุว่า ชาวจีนทั้ง 4 คนใช้เส้นทางเข้า–ออกจากประเทศผ่านกัมพูชาและลาว โดย 1 รายไม่มีพาสปอร์ตและหลบหนีเข้าเมือง 
ขณะนี้เตรียมถอนวีซ่าผู้ที่เข้ามาถูกต้องและดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์และลักลอบเข้าเมืองกับผู้ที่ผิดกฎหมาย

ผู้เสียหายชาวแคนาดาได้เดินทางมารับของกลางและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...