ไม่กลัวสงครามออกมาหาเห็ดตามป่าติดชายแดนไทย-กัมพูชา
จากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายฝ่ายหวั่นว่าอาจจะเกิดการสู้รบหรือเกิดสงครามขึ้น และยังมีหลายพื้นที่มีการปรับเปลี่ยนวันเวลาปิด-เปิด ด่านใหม่ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนต้องปรับตัวตามสถารการณ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาหาเห็ดตามป่าติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าที่พวกตนต้องออกมาหาเห็ดในป่าตามแนวชาดแดนไทย-กัมพูช นั้นเพราะเป็นอาชีพที่ต้องทำมาหากิน และต้องหารายได้ และเป็นอาชีพที่พวกตนทำมาตั้งแต่ไม่เกิดสถานการณ์ชายแดน โดยจะชวนกันออกมาหาเห็ดอยู่ที่ป่าช่องสะงำตรงนี้ทุกวัน ถามว่าเกิดเหตุสถานการณ์ชายแดนแบบนี้ไม่กลัวลูกปืนหรือเหยียบกับระเบิด หรอไม่ซึ่งกลุ่มชาวบ้านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กลัว ตรงไหนที่มีระเบิด หรือจุดไหนที่ทางทหารไม่ให้เข้า พวกตนก็ไม่ไปถ้าพวกตนพากันกลัวก็ไม่มีกิน แต่ถ้าสถานกาณ์สงบได้ไทย-กัมพูชา คุยตกลงกันได้จริง พวกตนก็ดีใจและชาวบ้านจะอยู่ระแวกใกล้ชายแดนก็จะอยู่อย่างสงบเหมือนเดิม
ขณะที่ชาวบ้านแซรไปร ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถือเป็นหมู่บ้านแรกที่อยู่ใกล้กับด่านถาวรช่องสะงำและเป็นหมู่บ้านที่ติดเขตชายแดนกัมพูชา บรรยากาศยังคงสงบและใช่ชิวิตเป็นปกติแต่ถ้าเกิดเหตุการณ์จริงทางหมู่บ้านก็ได้มีการเตรียมหลุมหลบภัยในหมู่บ้านไว้หลายจุด โดยผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้พูดคุยกับชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งเป็นชาวกัมพูชาที่มามีครอบครัวในประเทศไทย ซึ่งได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยมีการประกาศปรับเปลี่ยนวันเวลาเปิด-ปิด ด่านใหม่ ให้ชาวกัมพูชา รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าจากฝั่งกัมพูชาที่ต้องข้ามฝั่งมาหาทำมาหากินและซื้อของที่ฝั่งไทย ตอนนี้ได้รับผลกระทบมาก พ่อค้าแม่ค้าบางรายที่มาขายของในฝั่งไทยก็เดือดร้อนด้วยจากที่ขายได้วันละเป็นหมื่นแต่ทุกวันนี้ขายได้วันละ 900 บาท โดยส่วนตัวถ้าสถานการณ์เป็นแบบและถ้าเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆตนกลัวว่าพี่น้องฝั่งกัมพูชาจะอดตายเพราะฝั่งกัมพูชาจะนำเข้าสินค้าสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจากไทยทั้งหมดถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ชาวกัมพูชาก็ไม่สามารถดำรงชีพได้
ที่มา.ภาพ/ข่าว วนิดาชาญฤทธิ์ จ.ศรีสะเกษ