ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พร้อมเดินหน้าก่อสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่รอบบริเวณสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่าศาลเจ้าพ่อพญาแล

พร้อมเดินหน้าก่อสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่รอบบริเวณสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่าศาลเจ้าพ่อพญาแล

นางสาวสุรีวรรณ  นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ (นายก อบจ.ชัยภูมิ) มอบหมายให้นายสุชีพ  เศวตกมล รองนายก อบจ.ชัยภูมิ ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางโยธาธิการจังวัด พร้อมด้วยนางสาวสุกัญญา  กุลสุววณ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ  จัดเปิดเวทีประชุมเพื่อชี้แจงและรับฟังข้อเสนอโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ซึ่ง อบจ.ชัยภูมิ ได้รับงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้กับทางอบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้รวม 120 ล้านบาท โดยครั้งนี้หลังมีการเปิดเวทีดังกล่าวเสร็จสิ้น ทางด้านนายสุชีพ  เศวตกมล รองนายก อบจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็น โครงการปรับภูมิทัศน์สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมีหลักการและเหตุผล จังหวัดชัยภูมิ ที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมไปถึงมีความหลากหลายทางประเพณีที่มีความสำคัญ เป็นเอกลักษณ์ จากความน่าสนใจและความหลากหลาย ของทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว จึงส่งผลให้จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว รวมถึงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกมากมายโดยเฉพาะสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ซึ่งเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อพญาแล (เจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิมาได้จนปัจจุบัน) ที่เป็นศูนย์รวมใจความเคารพศรัทธาของชาวชัยภูมิทั้งจังหวัดกว่า 1.2 ล้านคน ที่มีพื้นที่หนองปลาเฒ่าตั้งอยู่หน้าบริเวณศาลเจ้าพ่อพญาแล ประมาณ 186-3-88 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่เป็นพื้นดินประมาณ 78-1-2 ไร่ และเป็นพื้นน้ำประมาณ 108-2-86 ไร่

ซึ่งในปัจจุบันสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า มีลักษณะเป็นสวนไม้ยืนต้น และดอกไม้ล้อมรอบบึงหนองปลาเฒ่าและมีเกาะกลางขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางบึงหนองปลาเฒ่า ด้านทิศใต้เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อพญาแล ซึ่งประชาชนชาวชัยภูมิและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธา นิยมมาสักการะบูชาและพักเยี่ยมชมสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า เป็นที่พักพักผ่อนหย่อนใจแล้วยังเป็นที่สถานที่ออกกำลังกายและทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ แต่ในปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์ต้นไม้และสวนหย่อมมีสภาพเสื่อมโทรมไม่ได้ทำการปรับปรุงมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิจึงได้จัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์อาคารและสิ่งก่อสร้างสภาพแวดล้อมภายในสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ให้เกิดความสวยงาม ลม มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้ผ่อนคลาย เพื่อเพิ่มและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อปรับปรุงสวนสาธารณะหนองให้เป็นสวนสาธารณะระดับเมืองและมีความเป็นเอกลักษณ์ที่จะมีความโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่อีกแห่งที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ

โดยครั้งนี้จะเริ่มมีการดำเนินโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า โดยดำเนินการก่อสร้าง ถนนพื้นโครงการพื้นที่ริมน้ำทางเดิน-วิ่ง ลานจอดรถลานกิจกรรม พื้นที่สวน ลานกีฬากลางแจ้ง ห้องน้ำสาธารณะ และบริเวณรอบศาลหนองปลาเฒ่า ที่จะใช้งบประมาณทั้งหมด 120 ล้านบาท และจะเริ่มดำเนินการจากนี้ไปตั้งแต่ช่วงเดือน สิงหาคม พ.ศ.2568 นี้ ในระยะยาวดำเนินการจะแล้วเสร็จได้ทั้งหมดในเวลาไม่เกิน 2 ปี ซึ่งจะมีผู้ดำเนินการของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้เข้ามาดำเนินการที่บริเวณสวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า  ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พิกัด N : 15.8022311111111 E : 102.010214444444 ที่มีขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการ จัดทำโครงการเสนอผู้บังคับบัญชาให้ความเห็นชอบ มาต่อเนื่องตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคม 2566 และบรรจุเข้าแผนพัฒนาท้องถิ่น(พ.ศ.2566-2570)เพิ่มเติม กรกฏาคม 2566 ดำเนินโครงการตามแผน (พ.ศ.2566-2570) ปีงบประมาณ 2567-2570 ที่มีผลผลิตและผลลัพธ์ของโครงการในการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 1 แห่ง ครั้งนี้ ที่จะเป็นการเข้ามาช่วยลดผลกระทบในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างต้องปิดพื้นที่สวนสาธารณะหนองปลาเฒ่า ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้บริการได้แก้ไข ให้ประชาชนไปใช้บริการ ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ แทนไปก่อนในช่วงจากนี้ไปด้วย

ที่มา.ภาพ/ข่าว สุทธิพงศ์ จ.ชัยภูมิ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...