ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รับรางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภท การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รับรางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประเภท การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 จากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง (HIRO) ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กระทรวงคมนาคม ได้รับรางวัลชมเชย รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 ประเภทรางวัล การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 จากการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง หรือ High Intensity Runway Operations (HIRO) ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยมี นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ประธานกรรมการ บวท. พร้อมด้วย นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. และผู้บริหารระดับสูง ของ บวท. เข้ารับรางวัลจาก นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล 

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยว่า การที่ บวท. ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ให้ได้รับรางวัลชมเชย ประเภทรางวัล การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น ประจำปี 2567 สะท้อนให้ถึงความสำเร็จในการดำเนินงาน เพื่อร่วมขับเคลื่อนภารกิจตามกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม ภายใต้ภารกิจหลักในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล่าช้าของอากาศยานทั้งภาคอากาศและภาคพื้น รวมทั้งลดผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบิน และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจประเทศไทยเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ตามนโยบายรัฐบาล
  
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ ประธานกรรมการ บวท. กล่าวว่า โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทางวิ่ง (HIRO) ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง มุ่งเน้นการใช้ทางวิ่งให้เต็มประสิทธิภาพ โดยการออกแบบวิธีปฏิบัติและดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด โดยกำหนดระยะห่างระหว่างเที่ยวบินในการวิ่งขึ้นและร่อนลงสู่สนามบินให้เหมาะสมกับระดับความปลอดภัย เป็นการเพิ่มความสามารถด้านการรองรับปริมาณเที่ยวบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นสูง พร้อมกับใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดตามและควบคุมการจราจรทางอากาศ ช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการจัดการเที่ยวบิน และเพิ่มความสามารถในการรองรับเที่ยวบินในช่วงเวลาที่มีปริมาณการจราจรคับคั่งได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย ส่งเสริมประสิทธิภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนโดยรอบสนามบิน และผู้โดยสารที่มาใช้บริการสายการบิน รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ บวท. มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ประยุกต์ใช้องค์ความรู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม

นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า ปัจจุบัน บวท. นำโครงการ HIRO เข้าใช้งาน ณ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง และจะขยายไปยังสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ ภายในปี 2568 นี้ รวมทั้งมีแผนที่จะนำเข้าใช้งาน ณ สนามบินที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นอื่น ๆ ทั่วประเทศในระยะต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวส่งผลให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้ 
1. ด้านสังคม  ได้แก่
1.1 เพิ่มประสิทธิภาพความตรงต่อเวลา ลดเวลาความล่าช้าของเที่ยวบิน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจของผู้โดยสาร ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่น และความประทับใจในบริการของสนามบินและสายการบินมากยิ่งขึ้น
1.2 เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารเวลาของผู้โดยสาร ทำให้สามารถวางแผนการเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น 
1.3 ลดความแออัดและความหนาแน่นของการจราจรทางทางอากาศ เป็นการช่วยลดมลภาวะการรบกวนจากเสียงเครื่องบินและมลภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงสนามบิน ทำให้คุณภาพชีวิตของชุมชนดีขึ้น
2. ด้านสิ่งแวดล้อม
2.1 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในภาคอากาศและภาคพื้น ทำให้เครื่องบินไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงมากเกินความจำเป็น ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อการลดปัญหาภาวะโลกร้อน
2.2 การจัดการการขึ้นลงของเครื่องบินให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เป็นการช่วยลดมลภาวะในภาพรวม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...