ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างสะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร จังหวัดชุมพร คืบหน้ากว่าร้อยละ 93

กรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างสะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร จังหวัดชุมพร คืบหน้ากว่าร้อยละ 93 เพิ่มศักยภาพการคมนาคม พร้อมสนับสนุนการรับมืออุทกภัย คาดพร้อมเปิดใช้งานปี 2568

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร กม. ที่ 12+260 อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยก่อสร้างทดแทนสะพานเดิมเพื่อสนับสนุนโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยบริเวณตัวเมืองชุมพรของกรมชลประทาน มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 93 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมสะพาน และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยบนสะพาน คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เดิมบริเวณจุดก่อสร้างเป็นคลองหัวท่า กว้าง 40 เมตร และมีสะพานแหลมญวนประชารักษ์ ชพ.023 ยาว 80 เมตร เพื่อให้ประชาชนใช้สำหรับเดินทางข้ามลำน้ำ ต่อมากรมชลประทานได้มีการขุดขยายคลองจากเดิมกว้าง 40 เมตร เป็น 116 เมตร เพื่อผันน้ำในช่วงฤดูฝนหรือช่วงมรสุม ส่งผลให้สะพานเดิมสั้นกว่าลำน้ำ ประกอบกับช่วงตอม่อสะพานเดิมขวางทางน้ำ ทช. จึงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทน เพื่อให้ช่วงตอม่อสะพานเหมาะสมกับขนาดของคลองที่ขุดใหม่ และช่วยบรรเทาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต พร้อมเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมให้สมบูรณ์ ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยในทุกฤดู ยกระดับความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ส่งเสริมระบบการเกษตรในชุมชน รวมทั้งสนับสนุนให้การคมนาคมขนส่งสินค้าเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับสะพานฯ เป็นการเชื่อมระหว่างหมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งคากับหมู่ที่ 8 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ก่อสร้างเป็นสะพานอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 160 เมตร ผิวจราจรกว้าง 9 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจรไป - กลับ ไม่มีทางเท้า พร้อมถนนต่อเชื่อมผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 6 เมตร ยาว 394 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ใช้งบประมาณ 42.150 ล้านบาท

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...