ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิจารณ์สนั่น! หวั่นอันตราย กลุ่มขายข้าวเกรียบกุ้งห้าแยกปากเกร็ด เดินขายของไม่รอสัญญาณ

วิจารณ์สนั่น! หวั่นอันตราย กลุ่มขายข้าวเกรียบกุ้งห้าแยกปากเกร็ด  เดินขายของไม่รอสัญญาณ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถที่บันทึกขณะขับรถผ่านบริเวณไฟแดง ห้าแยกปากเกร็ด โดยในคลิปมีภาพของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวเกรียบกุ้งที่เดินขายของกลางแยกไฟแดง แม้จะยังเป็นไฟเขียวที่อนุญาตให้รถวิ่งผ่านอยู่ ซึ่งทำให้ผู้โพสต์เกิดความกังวลว่าอาจเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเขาระบุว่า “เข้าใจนะครับว่าหาเงิน ทำมาหากิน แต่!!.. เมื่อสักพัก ขับรถผ่าน ห้าแยกปากเกร็ด มีกลุ่มขายข้าวเกรียบกุ้งตามไฟแดง เห็นไฟเขียวขาเข้าปากเกร็ดจากแจ้งวัฒนะมาน้องคนนี้เดินข้ามแบบไม่สนใจเลยว่ายังมีไฟเขียวรถแล่นอยู่ คือไม่รอสัญญาณไฟแดง ข้าม ทั้งๆที่ไฟเขียว ถ้ารถมาเร็วๆ เกิดชนนี่อันตรายมากเลย กล้องหน้ารถมีนะครับแต่ไม่อยากจะลง”

ล่าสุดวันนี้ (6พ.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณห้าแยกปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าไม่มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหรือเยาวชนมาค้าขายข้าวเกรียบกุ้งในบริเวณดังกล่าวในขณะนั้น

จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ นางประภัสสร ไกรสิทธิรัตน์ อายุ 62 ปี แม่ค้าขายส้มตำ กล่าวว่า ตนไม่สนับสนุนการกระทำลักษณะนี้ เพราะถือว่าเสี่ยงอันตรายและส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ คนภายนอกจะมองว่าไม่เหมาะสม ทั้งยังอาจเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงขึ้นได้ หากจำเป็นต้องค้าขายก็ควรหาสถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่เป็นทางมากกว่า ทั้งนี้ เธออยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลและแก้ไขปัญหานี้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและรักษาภาพลักษณ์ของพื้นที่

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ อายุ 55 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ กล่าวว่าตนเองมองว่าการเดินขายของบนถนนนั้นอันตรายมาก เพราะบางครั้งรถยนต์ยังไม่หยุดก็ตัดสินใจเดินเข้าไปแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ยังเห็นบางคนที่ขายของเป็นเด็กที่อาจไม่มีความระมัดระวังเพียงพอ กลัวว่าจะเกิดอันตรายและไม่คุ้มค่

ภาพ/ข่าว ทีมข่าวนนทบุรี

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...