ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"อนุทิน" เป็นประธานมอบรางวัลการแข่งขันเรือยาว ประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567

"อนุทิน" เป็นประธานมอบรางวัลการแข่งขันเรือยาว ประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 "มนต์เสน่ห์ 4 ภาค ลอยกระทง ณ คลองเปรมประชากร" ชื่นชมกรุงเทพมหานครฟื้นฟูประเพณีดั้งเดิมตามวิถีชุมชนชุมชน 

วันนี้ (15 พ.ย. 67) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย  เป็นประธานมอบรางวัลการแข่งขันเรือยาว ประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 "มนต์เสน่ห์ 4 ภาค ลอยกระทง ณ คลองเปรมประชากร" ที่จัดขึ้นบริเวณลานอเนกประสงค์ชุมชนประชาร่วมใจ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

โอกาสนี้ นายอนุทิน มอบรางวัล อาทิ 1) ถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือพาย 12 ฝีพาย ของ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท จากบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่ทีมสำนักงานเขตจตุจักร 2) ถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือพาย 7 ฝีพาย ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมเงินรางวัล 8,000 บาท จากบริษัท ไทยเบฟเวอรเรจ จำกัด (มหาชน) ให้แก่ทีมสำนักงานเขตบางซื่อ และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือแคนู พร้อมเงินรางวัล 6,000 บาท จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้แก่ทีมสำนักงานเขตดุสิต

นายอนุทิน กล่าวว่า คลองเปรมประชากรไหลผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เขตดุสิต เขตบางชื่อ เขตจตุจักร เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นคลองสายสำคัญ ทั้งด้านการคมนาคม  การพาณิชย์ รวมไปถึงกิจกรรมทางสายน้ำ เช่น การแข่งขันเรือยาวซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งการจัดการแข่งขันครั้งนี้เป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูประเพณีการแข่งขันเรือที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนริมคลองเปรมประชากร เปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี และส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

"ขอชื่นชมกรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคีเครือข่าย ที่ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันเรือยาวประเพณีลอยกระทงฯ มีการประสานความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน แสดงให้เห็นถึงการรวมพลังภาคีเครือข่าย ซึ่งนอกจากจะได้ฟื้นฟู อนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีแล้วยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจบริเวณริมคลองเปรม พี่น้องประชาชนได้มีความสุข สนุกสนาน รื่นเริง" นายอนุทิน กล่า 

นายอนุทิน กล่าวว่า คลองเปรมประชากรแห่งนี้จะเป็นคลองที่ได้ทำให้พวกเราร่วมจารึกประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ต้องจดจำไม่รู้ลืม เพราะในเวลาอีกไม่นานนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค โดยใช้เส้นทางคลองเปรมประชากรสายนี้ ไปทรงเปิดสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6 ซึ่งกลุ่ม ปตท. ได้ดำเนินการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ พร้อมลานกิจกรรมและเส้นทางจักรยาน รวมถึงจัดสร้างอาคารนิทรรศการ “ชลวิถีธีรพัฒน์” บอกเล่าเรื่องราวการพัฒนาสายน้ำ เพื่อ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” อันเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน

"นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเลือกเสด็จฯ ทางชลมารค เส้นทางคลองเปรมประชากร ซึ่งจะเป็นการเสด็จทางชลมารคครั้งที่ 2 ของปี ภายหลังจากที่พวกเราได้ร่วมรับเสด็จฯ ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในช่วงที่ผ่านมา อีกไม่นานนี้ จะเป็นบุญตาของพวกเราที่จะได้ชื่นชมพระบารมี จะได้ร่วมกันเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีและเป็นสิริมงคลกับพวกเราประชาชนคนไทยทุกคน และตนเชื่อว่าในวันเสด็จพระราชดำเนิน ทั้งสองฝั่งคลองเปรมประชากรจะเต็มไปด้วยเหล่าพสกนิกรที่จะแห่แหนมาร่วมชื่นชมพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์องค์พระประมุขผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเราทุกคน" นายอนุทิน กล่าว 

ด้าน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานลอยกระทง ประจำปี 2567 มนต์เสน่ห์ 4 ภาค ลอยกระทง ณ คลองเปรมประชากร  ประกอบด้วย การจัดการแข่งขันเรือยาว ประเภท 12 ฝีพาย ประเภท 7 ฝีพาย และการแข่งขันพายเรือแคนู เป็นครั้งแรกในสายน้ำคลองเปรมประชากร ชิงถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัลจากท่านราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย

การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูวัฒนธรรมการแข่งขันเรือยาวซึ่งเป็นการละเล่นที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนริมคลองเปรมประชากร เป็นประเพณีหน้าน้ำของคนไทยที่สืบทอดมาแต่โบราณ รวมไปถึงส่งเสริมกีฬาทางน้ำ โดยเปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม เสริมสร้างความสามัคคี ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจบริเวณริมคลองเปรมประชากร โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย หน่วยงานภายในสำนักพระราชวัง วัดเสมียนนารี พระอารามหลวง สำนักงานเขตจตุจักร สำนักงานเขตหลักสี่ สำนักงานเขตดอนเมือง สำนักงานเขตดุสิต จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท บิ๊กชี ซูเปอร์เซ็นต์เตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท บุญรอดบริเวอรรี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) คณะขับเคลื่อนการพัฒนาเขตจตุจักร สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดยาว และศูนย์บริการสาธารณสุข 17 (ประประชานิเวศน์)

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ มีคณะผู้บริหารร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก อาทิ พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี พระอารามหลวง คุณหญิงจันทนีย์ ธนรักษ์ ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และที่ปรึกษาสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร คุณนฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ที่มา.กองสารนิเทศ สป.มท.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...