ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คืบหน้า เปิดใจเพื่อนสนิทนศ.ถูกฆ่าเผาอำพรางศพ ชอบเล่นแอปฯหาคู่ และหาคู่นอน

คืบหน้า เปิดใจเพื่อนสนิทนศ.ถูกฆ่าเผาอำพรางศพ ชอบเล่นแอปฯหาคู่ และหาคู่นอน


จากกรณีเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ห้องเลขที่ 611 ชั้น 6 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งรีบรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง 7 ชั้น บริเวณหน้าลิฟต์ ชั้น 6 พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายวิศว แต้มประสิทธิ์ หรือนายซัน อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 19/8 ม.5 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง สภาพศพไหม้เกรียม นอนคว่ำหน้า มีเลือดไหลออกจากปาก พบว่ามีผ้าห่มสีฟ้าพันอยู่ที่ร่างกาย 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หอพักดังกล่าว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีฆ่าเผาอำพรางศพหนุ่มนศ.มหาวิทยาลัยชื่อดัง พบน.ส.เอ (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นเพื่อนสนิท ซันเป็นคนน่ารักและเฟรนลี่กับทุกคน ตนไม่เคยรู้เรื่องผู้ต้องสงสัย ทราบแค่เรื่องการหาคู่นอนผ่านแอปฯ และเจอตามสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มีแต่คนคุยไม่ได้มีแฟน ซันเคยยืมเงินเพื่อนคนอื่นบ้างหลักร้อยเวลาหมุนเงินไม่ทัน แต่ไม่เคยมายืมตน รู้แค่ว่าซันเป็นคนใช้เงินเยอะ ปมเหตุน่าจะมาจากเรื่องเงิน ตนเห็นข่าวแล้วที่มีคนขึ้นไปบนห้องด้วยน่าจะเป็นคนของซัน และซันอาจจะยืมเงิน ส่วนเรื่องการคบหาจะเป็นผู้ชายไม่ใช่สาวสอง ซันมีเพื่อนหลายกลุ่ม ตอนเล่นกีฬาไม่ได้มีปัญหากับใคร บางเรื่องตนก็ไม่ทราบ แต่ซันเป็นคนชอบเที่ยว ตนเป็นคนทราบเรื่องซันเสียชีวิตก่อนแล้วบอกเพื่อนคนอื่นว่ามีไฟไหม้ และมีคนตาย ก่อนจะมารู้ว่าเป็นเพื่อนตัวเองโดนฆ่าตาย รู้สึกใจหายมากๆ คุยกันครั้งสุดท้ายคืนก่อนที่ซันจะเสีย ยังกอดกัน เล่นด้วยกันอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่เคยเห็นหน้า และซันไม่เล่นเกมส์ จะเล่นแต่โซเชียล ชอบปัดแอปฯหาคู่ และมีมาเล่าให้ตนฟังบ้างเวลาไปไหนกับใคร

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านสันติสุข ร.8 รวมตัวออกมาปกป้องวัด ในชุมชนหลังจากถูกอดีตนายตำรวจใหญ่ ร้องเรียนวัดบุกรุกที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567  เวลา 10.30 น. ผู้นำชุมชน และ ชาวบ้านในชุมชน สันติสุข หมู่ 11 ต.บ้านเป็ด รวมตัวกันกว่า 60 คน ณ วัดสันติสุข วนาราม กรณีข้อพิพาท ระหว่าง อดีตนายตำรวจใหญ่ กับ พระ และกรรมการวัด สันติสุข กรณีสร้างเสนาสนะ ต่างๆโดยไม่รับอนุญาต และวันนี้มีการแจ้งว่า  วันนี้ ทางตำรวจ และ เทศบาลบ้านเป็ด จะเข้าจับกุม พระ และผู้ที่เข้ามาทำบุญ และผู้ที่อยู่ในบริเวณวัดสันติสุข ซึ่งในวันนี้มีประชาชน และพุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน สันติสุข ได้มารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านในชุมชนมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกัน อย่างสงบ ในบริเวณวัดสันติสุข และเวลาประมาณ 11.20 น. ได้มีผู้ร้อง ซึ่งเป็นอดีตตำรวจใหญ่ ได้มาพูดคุยชี้แจงกับชาวบ้าน ว่ากรณีวันนี้ไม่มีทางเทศบาล และ ตำรวจ เข้ามาที่วัด เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ราชการ หรือไม่ และให้ทางเทศบาลบ้านเป็ด ต้องมาขุดลอกคลองเปิดแก้มลิง ทำเป็นทางระบายน้ำแบบคลองยาว และชาวบ้านต้องร่วมเ...

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ พระนักพัฒนา สวนกระแสข่าวดังพระ แนะหลักธรรมให้ชาวพุทธยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ พร้อมเตรียมโครงการพัฒนาชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบพิธีวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พร้อมเทศนาธรรมะให้ผู้ที่มาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะหลักธรรมที่ชาวพุทธ โดยกล่าวว่า “ชาวพุทธยุคนี้ ควรจะยึดถือปฏิบัติในยุคนี้ นั่นคือความเมตตา ความมีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนกัน หรือหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตา นั่นเอง ถ้าบ้านเมืองเราและคนในชุมชนมีหลักของความเมตตา มีพรหมวิหาร 4 การดำรงชีวิตไปด้วยความราบรื่น สังคมบ้านเมืองจะสงบสุข”  พระครูธรรมธรสามารถ จตฺตมโล เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ที่เป็นข่าวโด่งดังในช่วงนี้ว่า “รู้สึกหนักใจกับกระแสข่าวดังกล่าว ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ควรยึดหลักธรรมคำสอน ”อริยสัจ 4“ ขอองค์พระสัมมาสั...

ตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Digital Asset โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่...